Facade Lighting หรือระบบแสงไฟเปลือกอาคาร คือการตกแต่งฟาซาดหรือเปลือกอาคารด้วยแสงไฟ ซึ่งช่วยสร้างความสวยงาม เพิ่มความโดดเด่นให้อาคาร และดึงดูดความสนใจจากผู้พบเห็นได้เป็นอย่างมาก
ในด้านสุนทรียภาพ ฟาซาดถือว่ามีอิทธิพลอย่างมากต่อการสร้างผลงานสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และนี่คือที่มาของการใช้แสงไฟในการตกแต่งเปลือกอาคาร
Facade Lighting สำคัญอย่างไร
เน้นฟีเจอร์สำคัญในเวลากลางคืน – เปลือกอาคารที่ออกแบบไว้อย่างสวยงามอาจดูโดดเด่นเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ในช่วงกลางวัน แต่ในยามกลางคืนเราอาจมองไม่เห็นดีไซน์และฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม ดังนั้น Facade Lighting หรือการตกแต่งฟาซาดหรือเปลือกอาคารด้วยแสงไฟจึงเป็นตัวช่วยที่สมบูรณ์แบบในการเพิ่มสีสันและเน้นอัตลักษณ์ทางสถาปัตยกรรม รวมถึงคุณลักษณะสำคัญต่าง ๆ ให้กับอาคาร สะพาน แลนด์มาร์ค หรือที่พักอาศัย เพื่อให้อาคารโดดเด่นแม้ในยามค่ำคืน
ดึงดูดความสนใจ – ช่วยสร้างเสน่ห์และความประทับใจให้ผู้พบเห็น สามารถดึงดูดสายตาของผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี แถมยังทำให้อาคารสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับอาคาร รวมไปถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบอีกด้วย
สร้างโอกาสทางธุรกิจ – ประโยชน์ของ Facade Lighting นั้นไม่ใช่เพียงเพื่อความสวยงามเท่านั้น เนื่องจากธุรกิจต่าง ๆ ยังสามารถเพิ่มมูลค่าได้จากการใช้แสงไฟกับโลโก้ หรือการติดตั้งจอ LED ขนาดใหญ่เพื่อการทำโฆษณาซึ่งช่วยสร้างเม็ดเงินได้โดยตรง
ประเภทการออกแบบแสงไฟ
เปลือกอาคารที่มีการออกแบบแสงไฟอย่างดีจะช่วยเน้นฟีเจอร์ต่าง ๆ ของอาคารให้โดดเด่น ซึ่งการออกแบบแสงไฟเปลือกอาคารมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับคอนเซ็ปต์และสไตล์ของอาคารนั้น ๆ
การส่องเน้นเฉพาะจุด (Accent Lighting) – คือ การใช้แสงไฟส่องเน้นไปยังจุดใดจุดหนึ่งหรือบริเวณที่สำคัญที่จะสามารถดึงดูดความสนใจได้มากที่สุด เช่น การใช้โคมไฟสปอตไลท์ (LED Spotlight)
การใช้แสงเน้นโครงร่าง (Silhouette Lighting) – คือ การเล่นแสงและเงา จะช่วยเพิ่มมิติและสร้างสุนทรียภาพให้กับภายนอกอาคารโดยรวม ในขณะที่การใช้แสงส่องไปยังจุดสำคัญต่าง ๆ จะช่วยเน้นรายละเอียดของอาคารให้เด่นชัด การใช้เทคนิค Silhouette ร่วมกับการใช้แสงส่องจากด้านหลังวัตถุจะช่วยเน้นฉากหลัง
แสงสว่างแบบเอฟเฟค (Effect Lighting) – คือ การใช้โคมไฟติดตั้งด้านบนหรือด้านล่างของเปลือกอาคาร เพื่อส่องแสงจากล่างขึ้นบน (Uplight) ร่วมกับการส่องจากด้านบนลงล่าง (Downlight) ซึ่งจะทำให้ลำแสงแคบลง ช่วยเพิ่มคอนทราสต์ที่เรียบง่าย
แสงสว่างทางสถาปัตยกรรม (Architectural Lighting) – คือ การใช้แสงสว่างที่สัมพันธ์กับงานทางด้านสถาปัตยกรรมหรือโครงสร้างของอาคาร เช่น การใช้หลืบร่องของผนังเป็นแหล่งกำเนิดแสง การใช้แสงจากมุมบังตาเพื่อเพิ่มมิติที่น่าดึงดูดให้กับอาคาร
ข้อคำนึงในการออกแบบ
ลักษณะของอาคาร – ส่วนสูง ความกว้าง และองค์ประกอบของอาคาร รวมไปถึงวัสดุที่ใช้ ลักษณะการสะท้อนแสง และสีของเปลือกอาคาร ทั้งหมดล้วนมีผลต่อการออกแบบแสงไฟเปลือกอาคาร เพื่อให้เข้ากับรูปลักษณ์ของอาคาร
ตำแหน่งการติดตั้งอุปกรณ์สร้างแสงไฟ – ควรอยู่ในจุดที่พรางสายตาจากมองเห็น แต่ไม่ถูกบดบังจากองค์ประกอบใด ๆ ของอาคาร รวมถึงองศาของแสงไฟ เพื่อให้แสงไฟสามารถส่องสว่างได้ชัดเจนและตรงตามวัตถุประสงค์การใช้งาน และแม้ว่าตำแหน่งติดตั้งควรอยู่ในจุดที่พรางสายตา แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องสามารถเข้าถึงได้เพื่อสะดวกต่อการบำรุงรักษา
ภูมิทัศน์รายล้อม – แสงไฟที่ส่องสะท้อนและภูมิทัศน์รอบด้านเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการออกแบบและตำแหน่งการติดตั้ง ควรเลือกตำแหน่งบนเปลือกอาคารที่ไม่มีแสงส่องถึง เช่น บริเวณด้านบนที่ไกลจากแสงไฟจากถนน
แสงต้องไม่ทำร้ายสายตา – ต้องระมัดระวังการเลือกใช้วัสดุที่ไม่เป็นแสงจ้าและส่องสว่างจนสร้างผลกระทบต่อดวงตาผู้คน แสงไฟนั้นจึงจะสร้างความสวยงามและการมองเห็นได้ชัดเจนตามวัตถุประสงค์
SHARE TO