ถ้าพูดคำว่าเปลือกอาคาร คนส่วนใหญ่อาจจะไม่แน่ใจว่าคืออะไร แต่ถ้าบอกว่า “ฟาซาด” (Facade) ก็คงจะคุ้นหูขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ ฟาซาดก็คือองค์ประกอบภายนอกอาคาร เช่น ผนัง ประตู หน้าต่าง กระจก ระเบียง ชายคา หรือสิ่งตกแต่งปลีกย่อยอื่นๆ พูดง่ายๆ คือเป็นหน้าตาของอาคารนั่นเอง ซึ่งในภาษาสถาปัตยกรรมเราจะเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า “เปลือกอาคาร”
เวลาที่เรามองตึกอาคาร ร้านค้าต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งบ้าน แล้วรู้สึกได้ว่าแต่ละที่ไม่เหมือนกัน บางที่ก็สวยสะดุดตา บางที่ก็ดูแปลกตามีเอกลักษณ์ บางที่ก็ดูดึงดูดน่าเข้าไปเยี่ยมชม ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลงานทางสถาปัตยกรรมที่ผ่านกระบวนการการคิดการออกแบบในเชิงลึกมาอย่างถี่ถ้วนจนเกิดเป็นหน้าตาของอาคารหรือที่เรียกว่าฟาซาดนั่นเอง
Building Envelope กับ Cladding คืออะไร? เหมือนกันไหม?
นอกจากคำว่า Facade แล้ว ยังมีอีกสองคำที่มักปรากฏในงานตกแต่งภายนอกอาคาร ก็คือ Building Envelope และ Cladding อย่างที่อธิบายข้างต้นว่าในงานสถาปัตยกรรมเราจะเรียกฟาซาดว่าเปลือกอาคาร ซึ่งมีความหมายตรงตัวกับ Building Envelope ในภาษาอังกฤษ ดังนั้นทั้งสองคำจึงหมายถึงสิ่งเดียวกันและมักใช้แทนกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งหมายถึงหน้าตาภายนอกของอาคาร ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ สไตล์ หรือโทนสีที่ใช้
ในขณะเดียวกันคำว่า Cladding จะหมายถึงวัสดุหุ้มภายนอกอาคารที่ทำหน้าที่ปกป้องอาคารและช่วยตกแต่งฟาซาดให้สวยงามด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีวัสดุและดีไซน์ให้เลือกหลากหลายชนิด ในขณะที่ถ้าเราพูดถึงฟาซาดเราจะหมายถึงหน้าตาทั้งหมดของอาคาร
หน้าที่ของฟาซาด
ปกป้องอาคารจากสภาวะอากาศ
ฟาซาดเป็นองค์ประกอบผนังที่ปกป้องอาคารจากสภาพภูมิอากาศต่างๆ ให้ผู้ที่อยู่ภายในอาคารสามารถอาศัยอยู่ได้อย่างปกติตามที่ต้องการ สภาพอากาศที่แปรปรวน เช่น ลมแรง พายุฝน ความชื้น และความร้อน ล้วนมีผลกระทบต่อผิวอาคาร ฟาซาดจึงเปรียบเสมือนเปลือกห่อหุ้มที่ทำหน้าที่ป้องกันน้ำและการสึกกร่อน ช่วยยืดอายุการใช้งานของอาคารให้ยาวนาน
กันความร้อน
ฟาซาดช่วยป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้เป็นอย่างดี ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันจึงมีเทคนิคและวัสดุให้เลือกใช้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งฉนวนกันความร้อนที่ผนัง การใช้ผนัง 2 ชั้น การเว้นช่องว่างระหว่างผนัง การใช้สีหรือกระจกสะท้อนและกรองความร้อน ช่วยสร้างความสบายให้แก่ผู้ใช้งานหรือผู้อยู่อาศัยในอาคารโดยเฉพาะในเมืองไทยที่มีอากาศร้อน
ควบคุมแสงสว่าง
การออกแบบฟาซาดให้สอดคล้องกับทิศทางของแสงช่วยควบคุมให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาภายในอาคารได้อย่างทั่วถึง ช่วยลดการใช้แสงไฟในเวลากลางวัน นอกจากนี้ การออกแบบฟาซาดให้สามารถปรับเลื่อน พับเก็บ หรือเปิด-ปิดได้ ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสามารถปรับเปลี่ยนเคลื่อนย้ายให้สอดคล้องกับทิศทางของแสงแดดในแต่ละเวลาได้ตามต้องการ
ช่วยให้อากาศถ่ายเท ลดฝุ่นละออง
เช่นเดียวกันกับประโยชน์ในการควบคุมแสง รูปแบบของฟาซาดสามารถควบคุมทิศทางลมเพื่อช่วยในการระบายอากาศที่ดีให้แก่อาคารได้ การใช้วัสดุเพื่อผลิตฟาซาด เช่น แผ่นเหล็กเจาะรู ตะแกรงเหล็กฉีก หรือวัสดุที่สามารถควบคุมทิศทางลม จะช่วยระบายอากาศและลดการใช้อุปกรณ์จำพวกพัดลมระบายอากาศได้ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันฝุ่นละอองได้เป็นอย่างดี
ประหยัดพลังงานในอาคาร
ฟาซาดมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการลดการใช้พลังงานในอาคาร การออกแบบที่เชื่อมต่อระหว่างภายนอกและภายในอาคารอย่างสอดคล้องลงตัว จะช่วยกรองแสงแดด ลดทอนความร้อนและอุณหภูมิ ควบคุมปริมาณอากาศ ความชื้น รวมถึงควบคุมแสงสว่างที่จะเข้ามาภายในอาคารให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อการใช้งาน ทั้งหมดนี้จึงนำไปสู่การลดการใช้ทรัพยากรและประหยัดพลังงานในอาคาร ช่วยลดการใช้เครื่องปรับอากาศ และสร้างสภาพบรรยากาศให้เหมาะสมกับการอาศัยอยู่ภายในอาคารนั้นมากขึ้น
สร้างความเป็นส่วนตัว
ฟาซาดเปรียบเสมือนกำแพงหรือฉากกั้นที่สามารถปิดพรางเพื่อมอบความเป็นส่วนตัวให้แก่ผู้ใช้งาน หรือแบ่งอาณาบริเวณกับอาคารหรือบ้านข้างเคียง หรือเพื่อรักษาความสมดุลระหว่างพื้นที่ภายนอกและภายในอาคาร
ควบคุมเสียง
ฟาซาดสามารถลดเสียงรบกวนจากบริเวณโดยรอบ เช่น เสียงจากงานก่อสร้าง การจราจร รถไฟ หรือเครื่องบิน เป็นต้น ซึ่งการออกแบบฟาซาดในปัจจุบันประกอบกับวัสดุที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฟาซาดสามารถทำหน้าที่ในการควบคุมเสียงทั้งภายนอกและภายในอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เอ็มบีเอ็ม เมทัลเวิร์คส เราเป็นผู้เชี่ยวชาญระบบผนังและเปลือกอาคารทุกรูปแบบ ออกแบบอย่างพิถีพิถันด้วยวิศวกรรมจากเยอรมนี พร้อมนวัตกรรมและวัสดุคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากลเพื่อความโดดเด่นสวยงามและยังคงไว้ซึ่งความประหยัดพลังงานภายในอาคาร เรามีผู้เชี่ยวชาญยินดีให้คำปรึกษาเพื่อตอบทุกโจทย์ความต้องการด้านงานตกแต่งภายนอกอาคารของคุณ ปรึกษาเราได้เลย
SHARE TO